วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557


ยิมนาสติก : ประวัติกีฬายิมนาสติก

ยิมนาสติก (Gymnastics) เป็นกีฬาสากลประเภทหนึ่งที่จัดเข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ยิมนาสติกมาจากภาษากรีกว่า Gymnos แปลว่า Nude ตามความหมายแปลว่า Necket Art แปลเป็นไทยว่า “ศิลปะแห่งการเปลือยเปล่า” ซึ่งหมายถึงวิธีการทำให้ร่างกายสวยงามมีทรวดทรงดีด้วยวิธีเปลือยกายเล่นกีฬา และมีการประกวดทรวดทรง พร้อมกับมีการแข่งขันกีฬากลางแจ้งต่อหน้าประชาชน
ผู้ที่มีร่างกายสง่างาม มีความสามารถทางการกีฬาก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะเลิศ ได้รับการต้อนรับจากประชาชน โดยช่างแกะสลักรูปหินอ่อนตั้งไว้บริเวณรั้วสนามกีฬา
การทำให้ร่างกายงามสง่านี้ ชาวกรีกเป็นผู้เริ่มและนิยมกันมากในสมัยโบราณ นักกีฬาจะบริหารกายด้วยวิธีต่างๆ ทั้งมือเปล่า และใช้เครื่องมือประกอบ สถานที่ซึ่งใช้ฝึกหัดโดยเฉพาะนี้เรียกว่า โรงฝึกพลศึกษา กิจกรรมใดที่นำมาบริหารร่างกายทำให้ร่างการยแข็งแรงสมบูรณ์และสง่างาม ก็เรียกกิจกรรมนั้นว่าการเล่นยิมนาสติก เช่น การวิ่ง การเล่น ผาดโผน ยกน้ำหนัก ไต่เชือก กายบริหาร และศิลปะการต่อสู้หลายประเภท ตลอดจนการกีฬาอื่นๆ แต่ระยะต่อมาความหมายของคำว่ายิมนาสติกได้เปลี่ยนไป
เนื่องจากกิจกรรมต่างๆ ได้เจริญก้าวหน้าขึ้นจนมีความสมบูรณ์ในตัวของมันเอง จึงถูกตั้งชื่อใหม่และแยกตัวออกจากคำเดิมอย่างเด็ดขาด คงเหลือไว้เฉพาะบางประเภท เช่น การฝึกหัดท่าผาดโผนบนเบาะ และบนเครื่องมือซึ่งติดตั้งอยู่กับที่ภายในห้องยิมฯ (Apparatus) ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมชั้นสูงที่ส่งเสริมความแคล่วคล่องว่องไว และทดสอบความสามารถของตนเอง เช่น บริหารกาย (Calisthenics) ยืดหยุ่น (Tumbling) การทรงตัว (Balance) ม้าหูและม้าหมุน (Side-horse, Long horse) ราวทรงตัว (Balance beam) ไต่เชือก (Rope ACTIVITIES) ต่อตัว (Pyramid) ราวเดี่ยว (High bar) ราวคู่ (Parallelbars) และห่วง เป็นต้น
กีฬาประเภทนี้เริ่มต้นเมื่อใดนั้นไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัด แต่มาปรากฏก่อนคริสต์ศักราช 2,600 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ชาวจีนได้มีการฝึกฝนท่ากายบริหารและคิดประดิษฐ์ท่าบริหารกายขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ในการบำบัดทางแพทย์แบบจีนจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า ชาวจีนได้มีการคิดท่ากายบริหารขึ้นมาเพื่อบริหารร่างกายให้เกิดความแข็งแรง และถือว่าเป็นการป้องกันและรักษาโรคได้ด้วยเรียกว่า ยิมนาสติกเพื่อการบริหารร่างกายและการฟื้นฟู นอกจากนั้นชาวจีนยังมีการละเล่นกายกรรมในลักษณะของการต่อตัว ไต่เชือก และการตีลังกาต่างๆ ซึ่งมีลักษณะเหมือนยิมนาสติกอย่างหนึ่งในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เราเชื่อกันว่าการเริ่มต้นของกีฬายิมนาสติกอย่างแท้จริงนั้นคือ สมัยเริ่มต้นของประวัติศาสตร์แห่งชาวกรีกและโรมัน โดยเฉพาะกรีกโบราณเป็นประเทศแรกที่สนใจและมีบทบาทอันสำคัญต่อกีฬายิมนาสติก แม้กระทั่งคำว่ายิมนาสติกก็เป็นภาษากรีก แบบหรือระบบของท่าบริหารร่างกายท่าต่างๆ ที่ใช้กันในสมัยโรมันก็คิดและประดิษฐ์ขึ้นโดยนักศึกษาสมัยโบราณของกรีก และพลเมืองทั่วทั้งประเทศได้ยึดถือเป็นแบบฉบับหรือระบบของท่าบริหารกายมาตรฐาน โดยฝึกสอนให้แก่เยาวชนตามสถาบันทุกแห่ง ยิมนาสติกในประเทศกรีกเริ่มต้นและพัฒนาไปพร้อมๆ กับวิทยาการด้านศิลปะและดนตรี ชาวสปาร์ต้ามีความศรัทธาเรื่องยิมนาสติกมากที่สุดโดยรัฐได้ตั้งขอ้กำหนดให้มีการฝึกหัดยิมนาสติกแก่เยาวชนของชาติทุกคนตลอดจนเด็กหญิง กิจกรรมประกอบด้วย ยืดหยุ่น เต้นรำ วิ่ง กระโดด ไต่เชือก และการเคลื่อนไหวทรงตัว
เมื่อจักรวรรดิโรมันมีอิทธิพลเหนือดินแดนกรีก โรมันก็ได้ลอกแบบกิจกรรมทางพลศึกษาทั้งหมดไปจากกรีก แต่ดัดแปลงนำไปใช้เพื่อฝึกทหารของตน แต่ทันทีที่จักรวรรดิกรีกและโรมันเสื่อมลง ทั้งด้านวัฒนธรรมและกีฬายิมนาสติกก็เสื่อมโทรมลงไปด้วย ตลอดจนกิจกรรมทางการออกกำลังกายประเภทต่างๆ รวมทั้งการประกวดก็ถูกทิ้งไปจนหมด นับเป็นระยะที่การพลศึกษาได้เข้าสู่ยุคมืดมน (Dark age) ตลอดจนถึงยุคกลาง (Middle age) ระหว่างศตวรรษที่ 14-16 ครั้นเข้าสู่ยุคฟื้นฟู (Renaissance) กิจกรรมทางพลศึกษาก็ค่อยๆ ตื่นตัว และได้ขยายออกไปสู่ประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป
ในปี พ.ศ. 2266-2333 Johann Basedow แห่งเยอรมันนี นักการศึกษาที่สำคัญได้บรรจุการออกกำลังกายแบบยิมนาสติกเข้าไว้ในหลักสูตรของโรงเรียน เมื่อปี พ.ศ. 2319
ในปี พ.ศ. 2302-2382 นักการศึกษาอีกผู้หนึ่งคือ นาย Johann Guts Muths ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม “คุณปู่แห่งกีฬายิมนาสติก” ได้บรรจุวิชายิมนาสติกเข้าไว้ในหลักสูตรของโรงเรียนปรัชเซีย และท่านผู้นี้ยังได้เขียนตำราที่มีคุณค่าต่อการศึกษาาไว้หลายเล่ม รวมทั้งตำรายิมนาสติกสำหรับเยาวชนด้วย นับว่าเป็นตำรายิมนาสติกเล่มแรกของโลก
ปี พ.ศ. 2321-2395 นักการพลศึกษาอีกท่านหนึ่ง คือ Friedrich Jahn เป็นผู้ก่อตั้งศูนย์ฝึกเทิร์นเวอร์เรียน (Turnverein) อันมีแนวโน้มไปในทางการแสดงออกถึงความรักชาติ โครงการนี้ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล ดังนั้นจึงเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว ศูนย์ฝึกดังกล่าวประกอบด้วยบริเวณลานฝึกอันกว้างใหญ่ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะเข้าร่วมได้ทั้งครอบครัว และได้คิดประดิษฐ์เครื่องอุปกรณ์การฝึกหลายอย่าง ในจำนวนนี้มีเครื่องอุปกรณ์ยิมนาสติกอยู่ด้วยคือ ราวเดี่ยว ราวคู่ ไชค์ฮอสลองฮอสชนิดสั้น (Buck) ต่อมาสงครามปลดแอกได้เสร็จสิ้นลง มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารประเทศ และนโยบายการบริหารประเทศได้เปลี่ยนแปลงไป พฤติกรรมของนาย Friedrich Jahn ถูกเข้าใจผิด จึงถูกจับเข้าคุกในข้อหามีแผนการณ์คิดจะล้มล้างรัฐบาล ดังนั้น สมาคมเทิร์นเรอร์เรียนซึ่งยังมีคนนิยมอยู่ก็ต้องดำเนินไปอย่างซ่อนเร้น และกระจัดกระจายออกไปสู่ประเทศอื่นๆ ในยุโรป และห้ามไปสู่สหรัฐอเมริกาในเวลาต่อมา
ปี พ.ศ. 2353-2401 นักศึกษาที่มีความสำคัญต่อวงการพลศึกษาอีกท่านหนึ่งคือ Adole Spiess ชาวสวิส เป็นผู้เสนอให้บรรจุวิชายิมนาสติกเข้าไว้ในหลักสูตรของโรงเรียนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
นักการศึกษาทางด้านพลศึกษาอีกท่านหนึ่งคือ Pehr Ling ชาวสวีเดนผู้มีความเชื่อว่ายิมนาสติกมีคุณค่าทางการบำบัดและแก้ไขความบกพร่องของร่างกายได้เขาได้คิดค้นท่าบริหารร่างกายประเภทบุคคลขึ้น และยังเป็นผู้คิดประดิษฐ์อุปกรณ์การออกกำลังกาย อันเป็นที่รู้จักกันในนามอุปกรณ์แบบสวีดีช (Swedish Apparatus) รวมทั้วราวติดผนังและหีบกระโดดด้วย
นักการศึกษาที่มีความสำคัญต่อวงการพลศึกษาอีกท่านหนึ่งคือ Franz Nachtegall ได้ริเริ่มการตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูยิมนาสติกเป็นแห่งแรก ณ เมืองโคเปนเฮเกน
วิวัฒนาการของวงการยิมนาสติกในสหรัฐอเมริกา เริ่มขึ้นพร้อมๆ กับการพลศึกษาของชาวยุโรปในระยะแรก ชาวยุโรปซึ่งเคยได้สังกัดอยู่ในสมาคมเทิร์นเวอร์เรียนเป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่สุดคือ นำเอาสมาคมดังกล่าวเข้าไปตั้งในสหรัฐอเมริกา โดยได้อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในดินแดนนี้ใหม่ ครั้นต่อมาสมาคมมีสโมสรเพิ่มขึ้นก็มีความต้องการครูผู้สอนเพิ่มขึ้น ดังนั้นในปี พ.ศ. 2408 จึงได้มีการจัดตั้งวิทยาลัยยิมนาสติกขึ้นเป็นแห่งแรกที่เมืองอินเดียนาโปลิส รัฐอินเดียนา ชื่อ Normal College of American Gymnastics ในระยะเวลาสองสามปีต่อมา สถาบันการศึกษาแห่งนี้ก็สามารถผลิตครูยิมนาสติกผู้มีความสามารถและมีกิจกรรมอื่นๆ อย่างมากมาย
ชาวอเมริกันคนแรกที่มีความสำคัญต่อวงการยิมนาสติกคือ Dr. Dudlay Sargent ขณะที่เขายังเป็นนักเรียนอยู่นั้น ได้เปน็ครูสอนยิมนาสติกที่วิทยาลัยโบวดอย (Bow Doin College) ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี เขาได้บรรจุกิจกรรมประเภทนี้เข้าไว้ในหลักสูตรของระดับวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ ต่อมาได้ไปอยู่ ณ มหาวิทยาลัยเยลและย้ายจากมหาวิทยาลัยเยลไปอยู่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในตำแหน่งผู้อำนวยการเฮเมนเวย์ ยิมเนเซียม ซึ่ง Dr. Sargent ได้คิดอุปกรณ์ยิมนาสติกขึ้นหลายอย่าง รวมทั้งรอกน้ำหนัก (Pulley WEIGHTS) และเครื่องมือบริหารขาและนิ้วมือ และยังเป็นผู้พัฒนาระบบทดสอบความสามารถของมนุษย์ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพทางร่างการยของเด็กนักเรียนด้วย
สมาคม Y.M.C.A. ในสหรัฐอเมริกา ก็นับว่าเป็นสถาบันที่มีความสำคัญต่อวงการยิมนาสติกเช่นกัน กล่าวคือ ทางสถาบันได้จัดกิจกรรมเข้าไว้รวมกับโปรแกรมทางพลศึกษาประเภทอื่นๆ ด้วย สมาคมทุกแห่งได้ติดตั้งเครื่องอุปกรณ์ยิมนาสติกไว้ในโรงยิมเนเซียมเพื่อบริการแก่สมาชิก และมีครูผู้สอนด้านนี้โดยตรงโรงเรียนฝึกหัดครูยิมนาสติกของ Y.M.C.A. แห่งแรกคือที่สปริงฟิลด์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ บุคลากรผู้ริเริ่มให้การพลศึกษาเคลื่อนไหวไปได้อย่างขนานใหญ่ควบคู่ไปกับแนวการศึกษาก็คือ Dr. Luther Gulick
ครั้นต่อมาในระยะสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดมีกิจกรรมทางการกีฬาใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายชนิด ดังนั้น กิจกรรมทางยิมนาสติกจึงได้รับความสนใจ และมีการปรับปรุงเพื่อให้ทันสมัย ทำให้ยิมนาสติกได้กลายเป็นกีฬาที่มีกฎกติกาอย่างสมบูรณ์และมีการแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัย โรงเรียน และสโมสรโดยทั่วไป
ปี พ.ศ. 2439 การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 1 ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีก ยิมนาสติกได้มีการแข่งขันในโอลิมปิกครั้งนี้ด้วย และมีกิจกรรมแข่งขัน เช่นวิ่งเร็ว กระโดดสูง กระโดดไกล กระโดดค้ำถ่อ พุ่งแหลน ทุ่มน้ำหนัก ว่ายน้ำ ราวคู่ ราวเดี่ยว คานทรงตัว และ Free exercise
ปี พ.ศ. 2446 ได้มีการจัดตั้งสหพันธ์ยิมนาสติกสากลขึ้น (Federation International De Gymnastic) มีชื่อย่อว่า F.I.G. โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้จัดให้มีการแข่งขันยิมนาสติกชิงแชมป์โลกขึ้น โดยกำหนดจัดการแข่งขัน 2 ปีต่อครั้ง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2460 หลังจากการแข่งขันยิมนาสติกชิงแชมป์โลกครั้งที่ 7 ก็ได้เปลี่ยนการแข่งขันให้เป็น 4 ปีต่อครั้ง เหมือนกับกีฬาโอลิมปิก โดยจะจัดก่อนโอลิมปิก 1 ปี
ในระยะแรกของการแข่งขันยิมนาสติก จะเป็นการแข่งขันเฉพาะประเภท ชาย ต่อมาปี พ.ศ. 2471 จึงจัดให้มีการแข่งขันประเภทหญิงด้วย (ตรงกับโอลิมปิกครั้งที่ 9 พ.ศ. 2471)
ในช่วงระยะที่กล่าวมาแล้ว กิจกรรมของยิมนาสติกที่ใช้ในการแข่งขันส่วนหนึ่งก็คล้ายกับยิมนาสติกปัจจุบัน อีกส่วนหนึ่งก็เป็นกรีฑาในปัจจุบัน บางครั้งก็มีว่ายน้ำด้วย ทางสหพันธ์ยิมนาสติกสากลจึงคิดว่าควรจะแยกการแข่งขันยิมนาสติกออกจากกรีฑา
ในปี พ.ศ. 2477 เริ่มบรรจุม้ากระโดด (Vaulting horse) และบาร์ต่างระดับ (Uneven bars) เข้าไว้ในการแข่งขันกีฬายิมนาสติกด้วย
ยิมนาสติกสากล
ในปี พ.ศ. 2495 ได้กำหนดให้ประเภทชายมี 6 อุปกรณ์ และหญิงมี 4 อุปกรณ์
อุปกรณ์ในประเภทชาย
1. ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ (Floor exercise)
2. ม้าหู หรือม้าหมุน (Pommel horse)
3. ห่วง (Rings)
4. ม้ากระโดด (Long horse)
5.บาร์คู่ (Parallel bars)
6. บาร์เดี่ยว (Horizontal bar)
อุปกรณ์ในประเภทหญิง
1. ม้ากระโดด (Vaulting horse)
2. บาร์ต่างระดับ (Uneven bers)
3. คานทรงตัว (Balance bars)
4. ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ (Floor exercise)
ยิมนาสติกชนิดนี้เรียกว่า ยิมนาสติกสากล
ปัจจุบันกีฬายิมนาสติกในสหรัฐอเมริกามีผู้นิยมโดยกว้างขวาง นอกจากจัดตั้งกันในรูปสมาคม และสโมสรสำหรับประชาชนแล้ว ในสถาบันการศึกษาต่างๆ ก็มีการฝึกฝนและจัดการแข่งขันทุกปีทั้งประเภทหญิงและประเภทชาย ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมต้น มัธยมปลาย จนถึงระดับวิทยาลัย และมหาวิทยาลัย การแข่งขันยิมมนาสติกระดับชาติต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาค่อยๆ มีหลักเกณฑ์และมีมาตรฐานตามหลักสากลนิยมขึ้นทุกขณะ ทั้งนี้เพราะผลอันสืบเนื่องมาจากการมีกติกายิมนาสติกสากลเป็นที่หวังได้ว่าหากมีนิเทศการสอนและครูผู้ฝึกสอนที่พอเพียงแล้ว ยิมนาสติกของสหรัฐอเมริการก็จะกลายเป็นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวในวงการธุรกิจอย่างกว้างขวางได้ในอนาคต
ยิมนาสติกลีลาประกอบดนตรี
ยิมนาสติกได้มีการพัฒนาปรับปรุงทั้งทางด้านกติกาเทคนิค และวิธีการต่างๆ จนทำให้ยิมนาสติกเจริญมาจนถึงทุกวันนี้ และในปี พ.ศ. 2513 ยิมนาสติกที่มีต้นกำเนิดมาจากทางแถบยุโรปตอนเหนือได้รับความนิยมมากขึ้น จึงทำให้เกิดเป็นยิมนาสติกแขนงใหม่เรียกว่า ยิมนาสติกลีลาประกอบดนตรี (Rhythmic Sportive Gymnastic)
ยิมนาสติกประเภทนี้ จะมีเฉพาะประเภทหญิงเท่านั้น เป็นการแสดงบนฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ โดยจะเป็นการเคลื่อนไหวประกอบเสียงดนตรี และอุปกรณ์ต่างๆ เช่น
1. บอล (Ball)
2. ริบบิ้น (Ribbin)
3. คทา หรือคลับ (Club)
4. ห่วง (Hoop)
5. เชือก (Robe)
ยิมนาสติกทั้งสองประเภทคือ ยิมนาสติกสากล และยิมนาสติกลีลา ประกอบดนตรี จะอยู่ภายใต้การควบคุมของสหพันธ์ยิมนาสติกสากล
ยิมนาสติกายกรรม หรือยิมนาสติกผาดโผน
ยิมนาสติกกายกรรมถือกำเนิดมาพร้อมๆ กับยิมนาสติกลีลาประกอบดนตรี ยิมนาสติกชนิดนี้มิได้ขึ้นกับสหพันธ์ยิมนาสติกสากล ลักษณะของการเล่นหรือการแข่งขันมีทั้งประเภทเดี่ยว ประเภทคู่ และประเภททีม เป็นลักษณะของการต่อตัว ผสมกับการแสดงท่ายืดหยุ่น หรือการตีลังกาทั้งบนฟลอร์ และกลางอากาศขณะต่อตัวในการแสดงประเภทคู่และทีมจะมีเสียงดนตรีประกอบ โดยผู้เล่นจะต้องแสดงให้เข้ากับเสียงดนตรีตามจังหวะอย่างต่อเนื่องและกลมกลืน กำหนดเวลาในการแสดง 2-3 นาที
ในประเภทเดี่ยวผู้แสดงจะต้องแสดงท่ายืดหยุ่นติดต่อกันเป็นชุด ชุดละ 4-5 นาที จำนวน 3-6 ชุด (ท่าสมัคร 3 ชุด ท่าบังคับ 3 ชุด) และจะต้องแสดงให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนดให้เช่นเดียวกัน
การจัดการแข่งขันนั้นจะจัดแยกออกต่างหากซึ่งในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกยังไม่ได้บรรจุเข้าแข่งขัน แต่ยิมนาสติกชนิดนี้เป็นที่นิยม และได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นอันมาก
ยิมนาสติกสมัยปัจจุบันนี้นับว่าก้าวหน้าไปมาก ท่าของการออกกำลังกายต่างๆ แต่ละประเภทของอุปกรณ์ นิยมแสดงเป็นชุด ชุดละหลายๆ ท่าติดต่อกัน กติกาที่ใช้ในการแข่งขันสากลหรือมาตรฐานโลกเรียกว่า International Federation of Gymnastic ประเทศที่มีผลงานทางยิมนาสติกอันเป็นที่รู้จักทั่วโลก นอกจากประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังมีประเทศในทวีปเอเชียคือ รัสเซีย และญี่ปุ่น การดำเนินงานของกีฬายิมนาสติกของแต่ละประเทศนั้นดำเนินไปในรูปของสมาคมแห่งชาติ สำหรับประเทศในแหลมทอง ก็มีบางประเทศที่มีการดำเนินงานในรูปดังกล่าว เช่น พม่า มาเลเซีย สิงคโปร์ เป็นต้น โดยการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 5 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2512 ซึ่งประเทศพม่าเป็นเจ้าภาพ ยิมนาสติกก็เป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่จัดให้มีการแข่งขันเป็นครั้งแรกการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก
ยิมนาสติกประกอบเพลงเริ่มเข้าสู่กีฬาโอลิมปิกในประเภทกลุ่ม จนถึง ปี พ.ศ. 2499 และในการแข่งขันยิมนาสติกโลกแต่ละครั้งจะมีการเล่นบนราวทรงตัว ราวคู่และม้ากระโดดเท่านั้น ผู้เข้าแข่งขันต้องแสดงทุกอุปกรณ์ ในปี พ.ศ. 2499 การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้มีการตัดการแข่งขันยิมนาสติกประกอบเพลงออกไป โดยมีข้อยุติว่ายิมนาสติกประกอบเพลงน่าจะเป็นกีฬาที่ทุกคนเล่นได้เองอย่างอิสระ อย่างไรก็ตามในประเทศโซเวียต รัสเซีย และกลุ่มประเทศสังคมนิยม ก็ยังเล่นและจัดการแข่งขันจนกระทั่งมีการประกาศจากสมาพันธ์ยิมนาสติกโลก (International Federation of Gymnastics) ในปี พ.ศ. 2505
แต่แล้วในปี พ.ศ. 2506 ก็ได้มีการแข่งขันยิมนาสติกแนวใหม่ประกอบเพลงระดับโลกขึ้น และได้จัดกาาแข่งขันทุกๆ ปี ในปี พ.ศ. 2521 ได้มีการแข่งขันชิงแชมป์ระดับยุโรปขึ้นเป็นครั้งแรก และได้นำการแข่งขันเข้าสู่กีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2527 ซึ่งจะจัดขึ้นในนครลอสแองเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา
ยิมนาสติกกายกรรม หรือยิมนาสติกผาดโผน
เป็นยิมนาสติกประเภทยืดหยุ่นและต่อตัว ซึ่งจะมีการต่อตัวแบบต่างๆ ลักษณะคล้ายกับกายกรรม กีฬาประเภทนี้ยังไม่แพร่หลาย และไม่มีการแข่งขันในกีฬาใหญ่ๆ ซึ่งการแข่งขันนั้นจะจัดแยกต่างหาก ในกีฬาโอลิมปิกยังไม่ได้บรรจุเข้าในการแข่งขัน แต่ก็เป็นที่นิยมและได้รับความสนใจจากผู้ชมอย่างมาก และยิมนาสติกประเภทนี้ก็ได้รับความนิยมพร้อมๆ กับยิมนาสติกลีลาประกอบดนตรี


ประวัติpitbull
Armando Christian Perez คือชื่อจริงของแร็พเพอร์หนุ่มหน้าใหม่มาแรงที่เรารู้จักกันในชื่อสั้นๆ แต่แสนดุอย่าง Pitbull นั่นเองPitbull เป็นชาวคิวบา แต่มาเติบโตในไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยโตมากับกาพย์กลอนของคิวบาและดนตรีแนวฮิปฮอป ของไมอามี่ ทำให้เขาชื่นชอบดนตรีแนวนี้มาตั้งแต่เด็กนั่นเอง
• Pitbull ออกอัลบั้มมาแล้วหลายอัลบั้ม คือ ‘M.I.A.M.I. (Money Is A Major Issue)’ เป็นอัลบั้มแรกในปี 2004 ซึ่งมียอดขายถึงระดับแผ่นเสียงทองคำเลยทีเดียว โดยตัวอัลบั้มก็ขึ้นสูงถึงอันดับ 7 ในชาร์ต R&B และอัลบั้มที่ 2 ‘El Mariel’ ในปี 2006 ซึ่งขึ้นสูงสุดถึงอันดับ 2 รวมถึงอัลบั้มที่ 3 ‘The Boatlift’ ในปี 2007 ที่ขึ้นถึงอันดับ 5 โดยได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังอย่าง Lil Jon, Jim Jones, Frankie J และ Lloyd อีกด้วย
• และนี่คืออัลบั้มที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุด ‘Rebelution’ ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 4 ที่จะออกในปี 2009 แต่เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรกไปแล้วในปี 2008 จนกลายเป็นเพลงดังข้ามปีอย่าง ‘Krazy’ ที่ได้ร่วมงานกับเพื่อนคู่หูผู้รู้ใจอย่าง Lil Jon อีกครั้ง โดยเพลงนี้ได้แซมเพิ้ลเพลง ‘Cream’ของ Federico Franchi ในปี 2007 มานั่นเอง ซึ่งมียอดขายซิงเกิ้ลถึงระดับแผ่นเสียงทองคำ (Gold) เลยทีเดียว ซึ่งอัลบั้มนี้ได้ Akon, T-Pain, Avery Storm, Trick Daddy, Kid Cudi และ Scarface มาเป็นแขกรับเชิญและยังได้รับเกียรติจาก Lil Jon และ The Neptunes มาโพรดิวซ์ให้อีกด้วย
• ตามมาติดๆ กับซิงเกิ้ล 2 ‘I Know You Want Me (Calle Ocho)’ ที่ติดชาร์ตอันดับ 1 ในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส ตุรกีและเนเธอร์แลนด์ และอันดับ 2 ในอเมริกาและแคนาดา และตอกย้ำความแรงด้วยยอดขายที่สูงถึงระดับแผ่นเสียงทองคำขาว (Platinum) และหนีไม่พ้นการแซมเพิ้ลเพลง ‘Street Player’ ของ Chicago มาอีกด้วย และซิงเกิ้ล 3 ‘Blanco’ ที่ร่วมงานกับ Pharrell และถูกนำไปใช้เป็นซิงเกิ้ลแรก เพื่อโปรโมทอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง ‘Fast And The Furious’
• และซิงเกิ้ลล่าสุดที่จะส่งให้เขากลายเป็นแร็พเพอร์ที่ฮ็อทที่สุดในเพลง ‘Hotel Room Service’ ที่จะทำให้คุณต้องโยกตามทุกครั้งที่ได้ยิน ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลที่ 4 ของอัลบั้มนี้ ที่แซมเพิ้ลเพลง ‘Push The Feeling On’ ของ Nightcrawlers มาอีกแล้ว
• Pitbull เคยฝากฝีมือไว้ในงานเพลงของศิลปินชื่อดังอย่างเพลง ‘Shake’ ของ Yin Yang Twins, ‘Hit The Floor’ ของ Twista, ‘Shooting Star’ ของ David Rush และล่าสุด ‘Now I’m That Bitch’ ของ Livvi Franc และยังได้ร่วมงานกับเหล่าดีเจต่างๆ จนได้แจมกับศิลปินดังๆ ไม่ว่าจะเป็น Flo Rida, Lil Wayne, T-Pain, Sean Paul และ Rick Ross เป็นต้น
ประวัติred hot chili peppers

ะวัติความเป็นมาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

Asean Economic Community-AEC
Asean Economic Community History
AEC เป็นการพัฒนามาจากการเป็น สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (The Association of South East Asian Nations : ASEAN) ก่อตั้งขึ้นตามปฏิญญากรุงเทพฯ (Bangkok Declaration) เมื่อ 8 สิงหาคม 2510 โดยมีประเทศผู้ก่อตั้งแรกเริ่ม 5 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ต่อมาในปี 2527 บรูไน ก็ได้เข้าเป็นสมาชิก ตามด้วย 2538 เวียดนาม ก็เข้าร่วมเป็นสมาชิก ต่อมา 2540 ลาวและพม่า เข้าร่วม และปี 2542 กัมพูชา ก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกลำดับที่ 10 ทำให้ปัจจุบันอาเซียนเป็นกลุ่มเศรษฐกิจภูมิภาคขนาดใหญ่ มีประชากร รวมกันเกือบ 500 ล้านคน
จากนั้นในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่  9 ที่อินโดนีเซีย เมื่อ 7 ต.ค.  2546  ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนได้ตกลงกันที่จะจัดตั้งประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ซึ่งประกอบด้วย3 เสาหลัก คือ
1.ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community:AEC)
2.ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (Socio-Cultural Pillar)
3.ประชาคมความมั่นคงอาเซียน (Political and Security Pillar)
คำขวัญของอาเซียน คือ “ One Vision, One Identity, One Community.” หนึ่งวิสัยทัศน์   หนึ่งอัตลักษณ์   หนึ่งประชาคม
เดิมกำหนดเป้าหมายที่จะตั้งขึ้นในปี 2563 แต่ต่อมาได้ตกลงกันเลื่อนกำหนดให้เร็วขึ้นเป็นปี 2558 และก้าวสำคัญต่อมาคือการจัดทำปฏิญญาอาเซียน (ASEAN Charter) ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2552 นับเป็นการยกระดับความร่วมมือของอาเซียนเข้าสู่มิติใหม่ในการสร้างประชาคม โดยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งทางกฎหมายและมีองค์กรรองรับการดำเนินการเข้าสู่เป้าหมายดังกล่าวภายในปี 2558
ปัจจุบันประเทศสมาชิกอาเซียน รวม 10 ประเทศได้แก่  ไทย พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา บรูไน
สำหรับเสาหลักการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community หรือ AEC )ภายในปี 2558 เพื่อให้อาเซียนมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ อย่างเสรี และเงินทุนที่เสรีขึ้นต่อมาในปี 2550 อาเซียนได้จัดทำพิมพ์เขียวเพื่อจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) เป็นแผนบูรณาการงานด้านเศรษฐกิจให้เห็นภาพรวมในการมุ่งไปสู่ AEC ซึ่งประกอบด้วยแผนงานเศรษฐกิจในด้าน ต่าง ๆ พร้อมกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ จนบรรลุเป้าหมายในปี 2558 รวมทั้งการให้ความยืดหยุ่นตามที่ประเทศสมาชิกได้ตกลงกันล่วงหน้า
ในอนาคต AEC จะเป็นอาเซียน+3 โดยจะเพิ่มประเทศ จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เข้ามาอยู่ด้วย และต่อไปก็จะมีการเจรจา อาเซียน+6 จะมีประเทศ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ อินเดียต่อไป

xo ประวัติ 12 หนุ่มวง EXO-K, EXO-M ไอดอลหน้าใสจาก SM


EXO

EXO-K


EXO-K

EXO-M


EXO-M





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก EXO-Kเฟซบุ๊ก EXO-M

          เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปี 2554 ทางค่าย SM Entertainment ได้ทำการปล่อยตัวทีเซอร์สมาชิกบอยแบนด์น้องใหม่ในนามวง EXO ออกมาเป็นคนแรก สร้างความฮือฮาในวงการเพลงเคป๊อปอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นการเปิดตัวไอดอลหน้าใหม่ในรอบ 2 ปี ของค่ายเพลงชื่อดังนี้ นับตั้งแต่วง f(x) ในปี 2552

          โดยสมาชิกคนแรกของวง EXO คือหนุ่ม KAI ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการทยอยเปิดตัวสมาชิกของวงทีละคน ๆ แบ่งเป็น EXO-K และ EXO-M ซึ่งหมายถึงการทำกิจกรรมพร้อมกันทั้งในเกาหลีและจีน โดยตัวย่อของ EXO อย่าง K นั้นหมายถึง KOREA (เกาหลี) และ M หมายถึง MANDARIN (ภาษาจีนแมนดาริน) นั่นเอง แยกเป็น...

          - EXO-K ประกอบไปด้วย SU HO, KAI, CHAN YEOL, SE HUN, BAEKHYUN และ D.O.
          - EXO-M ประกอบไปด้วย KRIS, LU HAN, TAO, LAY, XIU MIN และ CHEN

          อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้วิธีการเปิดตัวบอยแบนด์ที่แตกต่างออกไป ด้วยการแนะนำตัวทีละคนผ่านทีเซอร์นั้น ทำให้แฟน ๆ ต่างรอลุ้นว่า สมาชิกคนต่อไปจะเป็นใคร หน้าตาเป็นอย่างไร และสุดท้ายแล้ววงนี้จะมีสมาชิกทั้งหมดกี่คน กระทั่งวันที่ 11 มกราคม 2555 ทีเซอร์เปิดตัวของหนุ่มหล่อ เซฮุน ท่ามกลางสมาชิกคนอื่น ๆ อีก 11 คน ก็คล้ายกับเป็นการเฉลยว่า วง EXO ประกอบไปด้วยหนุ่มหล่อถึง 12 คนเลยทีเดียว

          สำหรับชื่อวง EXO นั้น ทางต้นสังกัดบอกว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากดาวเคราะห์นอกระบบอย่าง EXOPLANET เปรียบเหมือนกับศิลปินหน้าใหม่ที่เดินทางมาจากโลกที่ไม่มีคนรู้จัก แต่ทว่า ณ ตอนนี้ หนุ่ม ๆ กลุ่มนี้ก็ได้รับการตอบรับจากแฟน ๆ เป็นอย่างดี จากการเปิดตัวมินิอัลบั้ม "MAMA" ในวันที่ 9 เมษายน 2555 ประกอบไปด้วย 6 เพลง คือ เพลงไตเติลชื่อเดียวกับอัลบั้ม, เพลง What is Love เพลงแนว R&B, เพลงแดนซ์ HISTORY นอกจากนี้ยังมีเพลงแนวบัลลาดอย่าง Angel, Two Moons ที่ได้ร่วมฟีเจอร์ริ่งโดย คีย์ แห่ง ชายนี่ (SHINee) และเพลงแดนซ์ติดหูอย่าง MACHINE เรียกได้ว่า แต่ละเพลงนั้นมีความหลากหลายน่าสนใจจริง ๆ

          หลังจากที่ครองใจสาว ๆ จำนวนมากในช่วงต้นปี 2555 แล้ว หนุ่ม ๆ วง EXO ก็ห่างหายจากวงการเพลงเกาหลีไปนานกว่า 1 ปี เพื่อซุ่มซ้อมและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากงานหลากหลายประเภท จากนั้น EXO ก็กลับมาอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2556 กับอัลบั้มเต็ม XOXO KISS & HUG ที่คราวนี้ทั้ง EXO-K และ EXO-M ได้มารวมทีมกันครบทั้ง 12 คน ก่อนคัมแบ็คในเพลง Wolf ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามพร้อมคว้ารางวัลจากรายการเพลงดังของเกาหลีหลายรายการ และล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2556 พวกเขาก็กลับมาให้แฟน ๆ ได้กรี๊ดกันอย่างต่อเนื่อง กับอัลบั้มรีแพ็กเกจ ในเพลง Growl

          เชื่อว่าแฟน ๆ เคป๊อปหลายคนคงจะชื่นชอบหนุ่ม ๆ วง EXO กันอยู่แน่ ๆ แต่หากยังไม่รู้จัก และอยากสมัครเป็นแฟนคลับตัวจริงล่ะก็ ขอเชิญไปพบกับประวัติของหนุ่มหล่อทั้ง 12 คนกันเลย...


**หมายเหตุ : แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2556 เวลา 22.25 น.





 EXO-K

1. ซูโฮ (Su Ho) 

 ชื่อจริง : คิม จุนมยอน/Kim Jun Myeon
 ชื่อในวงการ : ซูโฮ
 ชื่อเล่น/ฉายา : จุนม่า (Joonma), ออมม่า (คุณแม่ของวง)
 พลังประจำตัว : น้ำ (ควบคุมน้ำ)
 อายุ : 22 ปี
 วันเกิด : 22 พฤษภาคม 1991
 กรุ๊ปเลือด : AB
 สัญชาติ : เกาหลี
 บ้านเกิด : ย่านคังนัม, โซล, ประเทศเกาหลีใต้
 การศึกษา : Korea National University of Arts
 ตำแหน่งในวง : นักร้องนำ/หัวหน้าวง
 อื่น ๆ :
- ปรากฏตัวในโฆษณา HaHaHa Song CF กับดงบังชินกิ ในปี 2008
- เป็นที่รู้จักในนามของชเวซีวอนคนที่สอง/ถูกเรียกว่าลูกหลานของชเวซีวอน


SU HO


2. แพคยอน,แพคฮยอน (Baek Hyun)

 ชื่อจริง : แพคยอน, แพคฮยอน/Baek Hyun
 ฉายา : เบค่อน, หมาน้อย, So-go-gi
 พลังประจำตัว : แสงสว่าง
 อายุ : 21 ปี
 วันเกิด : 6 พฤษภาคม 1992
 กรุ๊ปเลือด : O
 สัญชาติ : เกาหลี
 ความสามารถ : ฮับกิโด
 ตำแหน่ง : นักร้องหลัก
 อื่น ๆ :
- เคยออดิชั่น (ออนไลน์) ของค่าย JYP ในปี 2009


BAEK HYUN


3. ชานยอล (CHAN YEOL)


 ชื่อจริง : ปาร์ค ชานยอล
 ชื่อเล่น/ฉายา : ชานยอล, เยลลี่, Park Do-bi
 พลังประจำตัว : ไฟ (นกฟีนิกซ์)
 อายุ : 20 ปี
 วันเกิด : 27 พฤศจิกายน 1992
 กรุ๊ปเลือด : A
 สัญชาติ : เกาหลี
 การศึกษา : จบการศึกษาที่ ฮยอนแด High School
 ตำแหน่งในวง : แร็พเปอร์
 อื่น ๆ :
- สามารถทำบีทบ็อกได้
- มีความสามารถด้านดนตรี คือ กีตาร์และกลอง
- ปรากฏตัวใน MV Genie ของ SNSD (Jap.Ver)
- 2008 Smart Model Contest Winner
- ปรากฏตัวในโฆษณา HaHaHa Song CF กับดงบังชินกิ ในปี 2008


CHAN YEOL



4. ดีโอ (D.O.)


 ชื่อจริง : โด คยองซู
 ชื่อในวงการ : ดีโอ
 ชื่อเล่น/ฉายา : โดโด้, ดีดี้, ดโย (Dyo)
 พลังประจำตัว : ดิน (แผ่นดิน)
 อายุ : 20 ปี
 วันเกิด : 12 มกราคม 1993
 กรุ๊ปเลือด : A
 สัญชาติ : เกาหลี
 ความสามารถ : บีทบ็อกซ์
 ตำแหน่งในวง : นักร้องหลัก
 อื่น ๆ :
- เป็นเพื่อนกับ ฮยอนซิก BTOB

D.O.


5. ไค (KAI)


 ชื่อจริง : คิม จงอิน/Kim Jong In
 ชื่อในวงการ : ไค
 ชื่อเล่น/ฉายา : กังจง (Ggamjong)
 พลังประจำตัว : เทเลพอร์ต
 อายุ : 19 ปี
 วันเกิด : 14 มกราคม 1994
 กรุ๊ปเลือด : A
 สัญชาติ : เกาหลี
 การศึกษา : Seoul Arts High School
 ครอบครัว : คุณพ่อ, คุณแม่, พี่สาวสองคน
 ความสามารถ : บัลเลต์, แจ๊ส, ฮิปฮอป, ป๊อปปิ้ง, ล็อกกิ้ง แดนซ์
 ตำแหน่งในวง : นักเต้นหลัก/ร้อง
 อื่น ๆ :
- ปรากฏตัวในโฆษณา HaHaHa Song CF กับดงบังชินกิ
- เป็นเพื่อนของ SHINee แทมิน


KAI 



6. เซฮุน (Sehun)


 ชื่อจริง : โอ เซฮุน
 ชื่อเล่น/ฉายา : เซฮุน, ฮุน, ฮุนนี่, Odult
 พลังประจำตัว : ลม (ควบคุมลม)
 อายุ : 19 ปี
 วันเกิด : 12 เมษายน 1994
 กรุ๊ปเลือด : O
 สัญชาติ : เกาหลี
 การศึกษา : Seoul Arts High School
 ตำแหน่งในวง : นักร้องเสริม, แร็พเปอร์, นักเต้นนำ

SEHUN



  EXO-M 

1. ซิ่วหมิน (Xiu Min) 

 ชื่อจริง : คิมมินซอก/Kim Min Seok
 ชื่อในวงการ : Xiu Min
 ชื่อเล่น/ฉายา : Lil 'Fattie, ซาลาเปา, เปาจือ, มันดู (Mandoo)
 พลังประจำตัว : น้ำแข็ง (แช่แข็ง)
 อายุ : 23 ปี
 วันเกิด : 26 มีนาคม 1990
 กรุ๊ปเลือด : B
 สัญชาติ : เกาหลี
 ตำแหน่ง : นักร้องเสริม
 ความสามารถ : ร้องเพลง, เต้นรำ, ฟันดาบ, เทควันโด, เคนโด้, ทักษะการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยม
 อื่น ๆ :
     - ชนะอันดับ 2 ในการประกวด 2008 SM  (ชนะอันดับ 1 คือ จีโน่)


XIU MIN 


2. ลู่หาน (Lu Han) 


 ชื่อจริง : ลู่หาน/Lu Han
 ชื่อเล่น/ฉายา : ลู่หาน, เสี่ยวลู่ (Xia Lu), กวางน้อย, ห่าน, หน้าหวาน, บาร์บี้
 พลังประจำตัว : โทรจิต
 อายุ : 23 ปี
 วันเกิด : 20 เมษายน 1990
 กรุ๊ปเลือด : O
 ตำแหน่งในวง : นักร้องนำ, นักเต้นนำ
 บ้านเกิด : ปักกิ่งไฮเดียน
 ช่วงเวลาเทรน: เมษายน 2009 - 26 ธันวาคม 2011
 งานอดิเรกและความสนใจ : แอนิเมชั่น, ศิลปะ, วิดีโอเกม, คอมพิวเตอร์, กีฬาทางน้ำ, กีฬาแร็กเกต, กีฬาทางธรรมชาติ, บาสเกตบอล, เบสบอล, ฟุตบอล, เพลง, คอนเสิร์ต/คลับ, โทรทัศน์, สัตว์, การเดินทาง, ร้องเพลง
 การศึกษา :
- Seoul National University of Arts 2009
- High School: Beijing Haidian Foreign Language Experimental School 2005
- Junior: Division of School 2002, Beijing
- Primary School: Campus 1996 Beijing Yuyingxuejiao
 อื่น ๆ :
- เคยถ่ายทำ MV ร่วมกับ XING
- ในปี 2008 ร้องเพลง "I'm letting you go" และ "In love with the future you"


 LU HAN


3. คริส (Kris)


 ชื่อจริง : Wu Fan, Wu Yi Fan
 ชื่อในวงการ : Kris
 ชื่อเล่น/ฉายา : คริส, คริสปี้, หน้าสวย, อู๋ฟาน, เบนเบน (Ben Ben), อาป้า (คุณพ่อของวง)
 พลังประจำตัว : บิน (มังกร)
 อายุ : 22 ปี
 วันเกิด : 6 พฤศจิกายน 1990
 สัญชาติ : จีน
 ตำแหน่งในวง : หัวหน้าวง, แร็พเปอร์
 อื่น ๆ : 
     - เป็นจีนแคนาดา
     - อาศัยอยู่ที่ Guang Zhou, ประเทศจีนก่อนจะย้ายไปอาศัยอยู่ที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา
     - เป็นหัวหน้าทีมบาสเกตบอลที่จีนตอนอายุ 15 ปี
     - สามารถแร็พได้ดี
     - ชอบอ่านหนังสือมากโดยเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเองและแรงบันดาลใจ
     - เขาพูดได้ 4 ภาษา อังกฤษ จีน เกาหลี กวางตุ้ง
     - เขาปรากฏตัวในระหว่าง VCR ทัวร์คอนเสิร์ตของเกิร์ลเจนเรชั่น ในปี 2011


 KRIS

4. เลย์ (LAY) 

 ชื่อจริง : Zhang Yi Xing
 ชื่อในวงการ : LAY
 ชื่อเล่น/ฉายา : อี้ชิง, อาอี้, ชิงชิง (Xing Xing)
 พลังประจำตัว : เยียวยารักษา (ยูนิคอร์น)
 อายุ : 21 ปี
 วันเกิด : 7 ตุลาคม 1991
 ราศี : ตุลย์
 กรุ๊ปเลือด : A
 น้ำหนัก : 60 กิโลกรัม
 ตำแหน่ง : ร้องเสริม, นักเต้นหลัก
 สัญชาติ : จีน
 บ้านเกิด : ฉางชา, หูหนาน, จีน
 การศึกษา : Hunan Normal University High School
 งานอดิเรก : เล่นคอมพิวเตอร์, กีตาร์, เต้น
 ความสามารถพิเศษ : คล่องแคล่วทั้งภาษาจีนและเกาหลี
 อื่น ๆ :
      - ชนะอันดับ 3 Academy (Hunan Economic TV) 2005
      - SHINee คอนเสิร์ต เต้นแทนจงฮยอน


 
LAY




5. เฉิน (CHEN)


 ชื่อจริง : Kim Jongdae / คิมจงแด
 ชื่อในวงการ : Chen
 ชื่อเล่น/ฉายา : เฉินเฉิน (Chen! Chen!), ส้มเฉิน
 พลังประจำตัว : สายฟ้า
 อายุ : 20 ปี
 วันเกิด : 21 กันยายน 1992
 ราศี : ราศีกันย์
 สถานที่เกิด : เกาหลี
 สัญชาติ : เกาหลี
 ตำแหน่ง : นักร้องหลัก
 ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลง
 อื่น ๆ :
     - ปรากฏตัวครั้งแรกที่ SBS Gayo Daejun เอสเอ็มออร์เคสตรา

 CHEN


6. ทาโอ (TAO)


 ชื่อจริง : Huang Zi Tao
 ชื่อภาษาอังกฤษ : Edison Huang
 ชื่อในวงการ : TAO
 ชื่อเล่น/ฉายา : เถาเถา, ทาโอ, เต่า, แพนด้า, กังฟูแพนด้า, แพนด้าเถา, หล่อคม
 พลังประจำตัว : ควบคุมเวลา
 อายุ : 20 ปี
 วันเกิด : 2 พฤษภาคม 1993
 สัญชาติ : จีน
 บ้านเกิด : เมืองชิงเต่า มณฑลซานตง ประเทศจีน
 ตำแหน่งในวง : แร็พเปอร์หลัก/ร้อง
 งานอดิเรก : ศิลปะการต่อสู้, ท่าเต้นดาบ, ร้องเพลง, ออกกำลังกาย, บาสเกตบอล
 ภาษา : อังกฤษ, จีนแมนดาริน, จีนกวางตุ้ง, เกาหลี
 การศึกษา :
     - Primary school: Humen Centre Primary School (หนึ่งในโรงเรียนที่ดีที่สุดของจีน)
     - Middle school: Qindao Middle School
     - University: University of Hongkong, department of Music
 อื่น ๆ :
    - ทางบ้านค่อนข้างจะเข้มงวด
    - ชอบออกกำลังกายคนเดียว
    - ชอบสีฟ้า, ชอบอาหารตะวันตก(MChotdog), ชอบบาสเกตบอลและแมวดำ
    - แนวเพลงที่ชอบคือ hip hop และ R&B

TAO













EXO GROWL


EXO WOLF


EXO WOLF



EXO WOLF


EXO WOLF